ฉะเชิงเทรา

1. การทำขนมจีบ

วัตถุดิบ

1. แห้ว  200 กรัม 

2. หมูบด  350 กรัม 

3. หมูเด้ง  200 กรัม 

4. ไข่ไก่  1 ฟอง

5. ซีอิ๋วขาว  ¾  ช้อนโต๊ะ

6. น้ำตาลทราย  5  ช้อนโต๊ะ

7. เกลือ 1 ช้อนชา

8. แป้งมัน 3 ช้อนโต๊ะ

9. น้ำมันงา 1 ½  ช้อนโต๊ะ

10. แผ่นเกี๊ยวสำเร็จรูป

วิธีทำ

1. นำแห้วมาหั่นเต๋าเล็กๆ ล้างให้สะอาดแล้วพักให้แห้ง

2. นำหมูบด หมูเด้ง ไข่ไก่ มาผสมให้เข้ากัน

3. ปรุงรสด้วยซีอิ๋วขาว น้ำตาลทราย เกลือ น้ำมันงา แป้งมัน

4. นำแห้วที่พักไว้มาผสม ให้เข้ากัน

5. นำส่วนผสมที่ได้มาห่อกับแผ่นเกี๊ยวให้สวยงามนำขนมจีบที่ได้มานึ่ง ไฟกลาง เป็นเวลา 10 นาที

2. การทำซาลาเปา

วัตถุดิบ

แป้งนอก

1. แป้งซาลาเปา  375 กรัม

2. ยีสต์ 10 กรัม

3. น้ำตาลทราย 10 กรัม

4. น้ำ 200 กรัม

แป้งใน

1. แป้งซาลาเปา 175 กรัม

2. ผงฟู 5 กรัม

3. น้ำตาลทราย 100 กรัม

4. เกลือ 3 กรัม

5. เนยขาว 50 กรัม

วิธีทำ

1. (แป้งนอก) แป้งซาลาเปา ยีสต์ น้ำตาลทราย น้ำ มาผสมรวมกัน หมัก20 นาที

2. (แป้งใน) แป้งซาลาเปา ผงฟู ร่อนรวมกัน พักไว้ นำน้ำตาลทราย น้ำ เกลือ มาผสมกัน แล้วนำมาผสมกับแป้งที่ร่อนไว้

3. นำแป้งนอกกับแป้งในมาผสมกัน แล้วค่อยๆเติมเนยขาวจนหมด

4. พักทิ้งไว้ 45 นาที

5. นำแป้งที่ได้มา แบ่งเป็นก้อนกลมๆ ตามขนาดที่ต้องการ ให้พักให้แป้งคลายตัวอีก 10 นาที

6. นำแป้งที่ได้มาห่อกับไส้หมูสับที่เตรียมไว้ ให้สวยงาม

7. นำไปนึ่งด้วยไฟกลาง เป็นเวลา 12 นาที

ไส้หมูสับ

1. หมูสับ  ½  กิโลกรัม

2. รากผักชี   15 กรัม

3. กระเทียม 15 กรัม

4. พริกไทย  1 ช้อนชา

5. น้ำตาลทราย  55 กรัม

6. ซอสฝาเขียว  2 ช้อนโต๊ะ

7. ซีอิ๋วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

8. น้ำมันหอย  100 กรัม

9. แป้งข้าวโพด  ¼  cup

10. หอมใหญ่สับ 200 กรัม

วิธีทำ

1. นำรากผักชี กระเทียม พริกไทย มาโขลกให้ละเอียด แล้วผสมกับหมูบด หอมใหญ่สับ ให้เข้ากัน

2. ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย ซีอิ๋วขาว ซอสฝาเขียว น้ำตาลทราย ผสมให้เข้ากัน

3. เติมแป้งข้าวโพด นวดให้ได้ที่ พักไว้ในตู้เย็น 1 ชั่วโมง

3. ข้าวเกรียบปากหม้อ

วัตถุดิบ

1. แป้งข้าวเจ้า 1 ½  cup

2. แป้งมัน ¼  cup

3. แป้งท้าวยายม่อม ¼  cup

4. เกลือ ¼  ช้อนชา

5. น้ำเดือด  1 ½  cup

6. น้ำ ½  cup

วิธีทำ

1. นำแป้งมัน แป้งท้าวยายม่อม แป้งข้าวเจ้า เกลือ ผสมกัน

2. ค่อยๆเติมน้ำ นวดประมาณ 5-10 นาที จากนั้นเติมน้ำจนหมด

3. ใส่น้ำเดือดไปผสม

4. แล้วนำไปหยอดกับหม้อที่เตรียมไว้

ไส้ข้าวเกรียบปากหม้อ

1. หมูสับ 300 กรัม

2. ไช้โป้เค็ม 300 กรัม

3. ถั่วลิส่งคั่ว  300 กรัม

4. กระเทียบ  5 กลีบ

5. รากผักชี  5 ราก

6. พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ

7. หอมแดงซอย 200 กรัม

8. น้ำตาลปี๊บ 300 กรัม

9. ซีอิ๋วขาว  2 ช้อนโต๊ะ

10. เกลือป่น  1 ½  ช้อนชา

วิธีทำ

1. โขลก รากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้ละเอียดแล้วนำมาผัดจนหอม

2. ใส่หมูสับและหอมแดงซอย ผัดจนสุก

3. ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๋วขาว เกลือป่น

4. ใส่ไช้โป้เค็มและถั่วลิสงคัว ผัดจนได้ที่

4. การทำหมูสะเต๊ะ
ส่วนผสมหมูสะเต๊ะจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน

1. เครื่องหมักหมู

ตะไคร้ซอย  หอมแดง  ลูกผักชีคั่วบด  กระเทียมสับ  ผงกะหรี่กับขมิ้น  น้ำตาลทราย  เกลือ  กะทิ  น้ำมัน

2. ส่วนผสมน้ำจิ้ม

กะทิ  น้ำตาลปีบ  พริกแกงแดง  พริกแกงมัสมัน  น้ำมะขามเปียก  น้ำปลา  ถั่วลิสงคั่วปั่นหยาบ

3. ส่วนผสมน้ำอาจาด

น้ำตาลทราย  เกลือ  น้ำส้มสายชู  น้ำเปล่า

วิธีการทำ
การหมักหมู 

นำส่วนผสมเครื่องหมักหมูทั้งหมดมาผสมรวมกัน หมักทิ้งไว้ 1 ชั่งโมง หรือจะให้ดีทิ้งไว้ 1 คืนกะทิจะเข้าไปในเนื้อหมู 

เทคนิคการเสียบไม้

ไม้ที่จะเสียบหมูสะเต๊ะจะต้องแช่น้ำให้อิ่มตัวก่อน จะทำให้ไม้ไม่ไหม้และไม่เสียรสชาติ

การทำน้ำจิ้ม

ใส่กะทิลงไปในกะทะไม่ต้องหมด เราจะค่อยๆ ใส่ลงไปในตอนผัด ใส่พริกแกงทั้ง 2 ชนิดลงไปผัดให้เข้ากันจนขึ้นสีแต่ไม่ต้องทำให้กะทิแตกมันหลังจากนั้นค่อยๆ ใส่กะทิลงไปอีกครั้งรอบนี้เทลงไปจนหมด เพื่อไม่ให้แตกมันใส่น้ำตาลปี๊บและน้ำตาลทรายลงไป คนจนน้ำตาลละลายแล้วใส่น้ำมะขามเปียกลงไปคนให้เข้ากันแล้ว พักทิ้งไว้ก่อนถั่วลิสงเราสามารถใส่ตอนที่เราจะรับประทานได้เพราะจะทำให้ถั่วกรอบและมีกลิ่นหอมมากกว่า

การทำน้ำอาจาดและการย่างหมู

ใส่น้ำตาลทราย เกลือ น้ำเปล่า น้ำส้มสายชู ลงไปโดยที่เราไม่ต้องคนตั่งไฟทิ้งไว้จนน้ำตาลละลาย แยกพริก แตงกวา หอมแดง เอาไว้ใส่ตอนที่น้ำอาจาดเสร็จ ในระหว่างที่รอน้ำอาจาด เราเริ่มมาย่างหมู ส่วนหนูนั้นเวลาเสียบไม้อย่าให้ไม้ปลิ้นออกมาเยอะเพราะเวลาหมูแห้งจะทำให้หมูของเรานั้นรูดไปรูดมา การย่างหมูแนะนำให้ใช้ไฟแรงจะทำให้หมูของเรามีกลิ่นหอมแต่ต้องคอยดูและกลับหมูอยู่ตลอด ระหว่างนั้นเรามาดูน้ำอาจาดที่ตั่งไฟไว้เมื่อน้ำตาลละลายหมดแล้วให้เราปิดไฟและพักทิ้งไว้ให้เย็นเสร็จแล้วกลับมาดูหมูต่อขณะที่เราย่างหมูอยู่ให้เราเอาน้ำหมักที่เราหมักหมูไว้มาทาลงบนหมูเพื่อให้หมูมีความหอมและชุ่มไม่แห้ง หมูของเราสุกได้ที่ให้นำจัดใส่จานและมาเตรียมน้ำอาจาด นำแตงกวา หอมแดงและพริกชี้ฟ้าแดงใส่ลงในถ้วยแล้วตักน้ำอาจาดราดลงไปในถ้วยไม่ต้องเยอะเพราะน้ำของแตงกวากับหอมแดงจะไหลเพิ่มออกมา เตรียมถ้วยอีกหนึ่งใบใส่น้ำจิ้มและจัดจานให้สวยงามพร้อมเสิร์ฟ เป็นอันเสร็จ

5. การเพ้นท์เครื่องแก้ว
อุปกรณ์

แก้วกระเบื้อง  กาวทำเองชนิดพิเศษ  สีมาราบู  คัตเตอร์บัต

วิธีการทำ

อันดับแรกทำความสะอาดแก้วก่อนเสร็จแล้วทากาวให้เป็นรวดรายตามชอบแล้วปล่อยทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง ให้กาวแห้งแล้วนำพู่กันมาล้างน้ำมันสนเพื่อให้พู่กันนิ่มแล้วเช็ดพู่กันให้แห้ง คัตเตอร์บัต 1 อัน จุ่มน้ำมันสนแล้วเอาคัตเตอร์บัตไปเช็ดกับกระดาษเช็ดชู่ เพื่อให้น้ำมันติดน้อยที่สุดเพื่อที่จะเอาไว้เช็ดสี การลงสีต้องคว่ำแก้วลงเพื่อที่สีย้อยลงมาเราจะได้เห็น หลังจากที่กาวแห้งแล้วให้ลงสีตามเส้นกาวที่เราลงไว้ตั้งแต่แรก ถ้าสีเลอะเราสามารถใช้คัตเตอร์บัตเช็ดออกได้ ลงสีตามใจชอบรอให้สีแห้งเป็นอันเสร็จ

6. การทำยาดมสมุนไพร
วัสดุ

โหลแก้วสำหรับหมัก  ขวดแก้วสำหรับบรรจุ  สมุนไพรที่ใช้ (อบเชย  ลูกกะวาน  ดอกจัน  รกจัน  ยี่หร่า  กานพลู  พิมเสน  การบูร  เมนทอล)  ใช้วัสดุต่างๆอย่างละเท่าๆกัน

วิธีทำ

นำสมุนไพรอย่างละเท่า ๆ กันนำมาโขลกให้หยาบๆ ขนาดบรรจุลงขวดเล็ก ๆ ได้ นำเมนทอลการบูรและพิมเสนมาผสมให้เข้ากันคนจนละลายจากนั้นก็เทลงไปผสมในสมุนไพร หมักไว้ประมาณอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือยิ่งนานยิ่งดีโบราณจะหมักกันเป็นปียิ่งนานจะยิ่งหอม จากนั้นบรรจุลงในขวดที่เราเตรียมมาปิดด้วยภาพโปร่งหรือจะนำสมุนไพรมาห่อกับภาพโปร่งแล้วใส่ลงไปในขวดก็ได้ค่ะและนำมาตกแต่งให้สวยงามแล้วแต่ชอบ

7. การเย็บกระเป๋าสตางค์ด้วยมือ
วัสดุ

ผ้าคอตตอนลายน่ารัก  ผ้าซับในสีอ่อนๆ  ใยสังเคราะห์  ผ้ากุ้น ซิป  ด้ายเย็บ  เข็มเย็บผ้า  กระดาษแข็งทำแบบ  ปากกาเขียนผ้า

วิธีทำ

นำกระดาษมาสร้างแบบตามที่ต้องการ นำกระดาษแบบมาเขียนลงบนผ้าตามรูปร่างของแบบทำลักษณะนี้เหมือนกันทั้งผ้าลายใยสังเคราะห์และผ้าซับใน นำทั้งสามชิ้นมาซ้อนกันโดยให้ผ้าซับในอยู่ล่าง ใยสังเคราะห์อยู่กลาง และผ้าลายกระเป๋าที่เราชอบอยู่บน จากนั้นมา เนา ให้ติดกันทั้งสามชิ้น เวลาตัดผ้าทั้งสามชิ้นนี้ให้ตัดเผื่อรอบตัวประมาณ 1 เซนติเมตร จากนั้นเอาแบบมาทาบบนผ้าลายชิ้นที่เราจะโชว์ เย็บตามรอยที่เราวาดให้รอบโดยวิธีเย็บ เนา ถี่ๆ  นำกรรไกรตัดตามรอยที่เนาไว้แต่อย่าให้โดนด้ายเนาหมายความว่าตัดข้างเกือบชิด ตัดโดยรอบจากนั้นนำผ้ากุ้นโดยรอบพับผ้ากุ้นสอยให้เรียบร้อย นำซิปมาติดที่ปากกระเป๋าโดยแบ่งพับครึ่ง ติดซิปทั้งสองข้าง เย็บโดยไม่ให้เห็นด้ายให้เรียบร้อย ปากและก้นซิปต้องสอยตะเข็บ โดยให้ผ้ากุ้นชนกัน เย็บก้นกระเป๋าประมาณ 1.5 เซนติเมตร สอยมุมให้เรียบร้อย

8. การเย็บแมสผ้า
วัสดุ

ผ้าคอตตอน  ผ้ากรอง  ผ้าซับใน  ยางยืดเส้นเล็ก  กระดาษแข็งทำแบบ ปากกาเขียนผ้า ด้ายเย็บ เข็มเย็บผ้า

วิธีทำ

1. สร้างแบบตัดแบบออกมาตามแบบที่สร้างเผื่อเย็บในตัว

2. วาดแบบลงในผ้าด้านผิด

3. ลอกลงในผ้าทุกชิ้น ตัดผ้าชิ้นนอก 2 ชิ้นต้องปะกบ ซ้ายและขวาทำเหมือนกันทั้งหมด

คือ ตัวนอก 2 ชิ้น  ตัวผ้ากรอง 2 ชิ้น  ผ้าซับใน 2 ชิ้น ตัดยางยืดยาว 20-23 ซม.

4. เวลาเย็บนำชิ้นนอกมาซ้อนกับผ้ากรองทั้งซ้ายและขวา เย็บต่อกึ่งกลาง เย็บล้มตะเข็บกลาง 2 เส้น เย็บชิ้นซับในต่อกลางเย็บล้มตะเข็บแบบตัวนอก

5. นำชิ้นผ้าแบะกลางทุกชิ้นมาเย็บประกบชิ้นนอกและชิ้นซับในเย็บด้านบนและด้านล่างกลับผ้า เย็บล้มตะเข็บด้านบน และด้านล่างพับริมพับเข้ามาให้ได้ 1 ซม. เย็บเอาไว้สอดยางยืดเมื่อสอดยางยืดแล้วนำริมยางยืดทั้งสองข้างนำริมมาซ้อนกันเย็บให้แน่นๆ ดึงยางให้รอยต่ออยู่ด้านใน

9. การทำสบู่
สบู่มะนาว
วัสดุ