คนหางานที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ อย่าหลงเชื่อข้อความโฆษณาทางโซเชียลมีเดีย และขอให้ตรวจสอบข้อมูลตำแหน่งงาน ลักษณะงาน ตลอดจนประเทศที่จะไปจากเจ้าหน้าที่ของกรมการจัดหางาน ก่อนตัดสินใจเดินทางไปทำงานต่างประเทศ RSS

 

รมว. แรงงาน ห่วงใยคนหางานไปทำงานต่างประเทศ หลังพบนายหน้าเถื่อนหลอกค้ามนุษย์ผ่านโซเชียลมีเดีย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  สั่งการกรมการจัดหางาน เข้มงวด ตรวจสอบ ผู้มีพฤติกรรมหลอกลวง โฆษณาการจัดหางาน ทางสื่อสังคมออนไลน์  โดยฉวยโอกาสหลอกเหยื่อที่ตกงานช่วงโควิด อ้างรายได้ดี และเรียกเงินค่าจัดทำวีซ่า ค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากคนหางาน 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19  ระลอกใหม่ ส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ สถานประกอบการในประเทศจำนวนมากได้รับผลกระทบจนไม่สามารถจ้างงานได้เช่นเดิม ทำให้แรงงานไทยส่วนหนึ่ง มีความหวังจะไปทำงานต่างประเทศเพื่อหารายได้  ซึ่งล่าสุดได้สั่งการกรมการจัดหางาน ให้ติดตาม ตรวจสอบแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศผ่านด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิอย่างเข้มงวด เพื่อระงับการเดินทางของผู้ที่มีพฤติการณ์ลักลอบไปทำงานต่างประเทศอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ป้องกันการถูกหลอกลวงและตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์

ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน แนะนำ คนหางานที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ อย่าหลงเชื่อข้อความโฆษณาทางโซเชียลมีเดีย และขอให้ตรวจสอบข้อมูลตำแหน่งงาน ลักษณะงาน ตลอดจนประเทศที่จะไปจากเจ้าหน้าที่ของกรมการจัดหางาน ก่อนตัดสินใจเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เพราะมีโอกาสถูกหลอกลวงให้สูญเงิน  จนถึงเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลบริษัทจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน  www.doe.go.th/ipd  ซึ่งขณะนี้มีบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตทั้งสิ้น 127 บริษัท 

“ การโฆษณาการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน จะมีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  และผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุก 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

ทั้งนี้ เดือนมกราคมที่ผ่านมา มีการระงับการเดินทางของผู้ที่มีพฤติการณ์จะลักลอบไปทำงานในต่างประเทศแล้ว จำนวน 49 คน และคนงานไทยไปทำงานและฝึกงานในต่างประเทศ จำนวน 1,965 คน”  อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

สำหรับผู้สนใจจะไปทำงานในต่างประเทศ ควรศึกษาข้อมูลการเดินทางไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน