แนวทางการปฏิบัติงานคนต่างด้าวตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม RSS

 

๑. กรณีการขออนุญาตทำงานครั้งแรกเมื่อนายทะเบียนอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานแล้ว ให้ดำเนินการดังนี้

     (๑) นายจ้างแจ้งการจ้างคนต่างด้าวเข้ามาทำงานต่อนายทะเบียน (มาตรา ๑๓)

     (๒) คนต่างด้าวแจ้งการเข้าทำงานกับนายจ้าง (มาตรา ๖๔/๒)

๒. กรณีคนต่างด้าวเปลี่ยนหรือเพิ่มนายจ้าง ให้ดำเนินการดังนี้

     (๑) ให้คนต่างด้าวแจ้งการเข้าทำงานกับนายจ้างรายใหม่หรือแจ้งเข้าทำงานกับนายจ้างที่เพิ่มเติมเข้ามาต่อนายทะเบียน (มาตรา ๖๔/๒)

     (๒) ให้นายจ้างรายใหม่หรือนายจ้างที่เพิ่มเติมเข้ามาแจ้งการจ้างคนต่างด้าวเข้าทำงานต่อนายทะเบียน (มาตรา ๑๓)

     (๓) ให้นายจ้างรายเดิมแจ้งคนต่างด้าวออกจากงานต่อนายทะเบียน (มาตรา ๑๓)

     (๔) ให้เจ้าหน้าที่ที่รับแจ้งตาม (๑)-(๓) ออกใบรับแจ้งให้แก่คนต่างด้าวหรือนายจ้างไว้แล้วแต่กรณี และไม่สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากคนต่างด้าวหรือนายจ้างได้

๓. ในกรณีเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามบันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ ให้เจ้าหน้าที่พิจารณาตามเงื่อนไขเดิม (นายจ้างเลิกจ้างโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรหรือนายจ้างเสียชีวิต นายจ้างล้มละลาย นายจ้างกระทำทารุณกรรมหรือทำร้ายร่างกายลูกน้อง นายจ้างไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้างหรือกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน ลูกจ้างทำงานในสภาพการทำงานหรือสภาพแวดล้อมในการทำงานที่อาจทำให้ลูกจ้างได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัย) ที่ใช้ในการพิจารณาให้เปลี่ยนนายจ้างได้ และหากปรากฎว่าเหตุที่คนต่างด้าวออกจากงานเพื่อเปลี่ยนนายจ้างไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสามารถเปลี่ยนนายจ้างได้ถ้าคนต่างด้าวหรือนายจ้างรายใหม่ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับนายจ้างรายเดิมให้สามารถเปลี่ยนนายจ้างได้ ซึ่งต้องไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่ออกจากนายจ้างรายเดิม

     ถ้าเหตุที่คนต่างด้าวออกจากงานไม่เป็นไปตามเงื่อนไขหรือนายจ้างไม่ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายจ้างรายเดิมหรือพ้นสามสิบวันนับแต่วันที่คนต่างด้าวออกจากงานจากนายจ้างรายเดิม แต่ไม่มีนายจ้างรายใหม่จ้างคนต่างด้าวนั้นเข้าทำงานให้นายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวดังกล่าว และให้ผู้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวมาทำงานหรือนายจ้างส่งคนต่างด้าวกลับประเทศต้นทาง (มาตรา ๔๓ มาตรา ๔๖ มาตรา ๕๐ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๒ และมาตรา ๕๓)

๔. ในกรณีที่คนต่างด้าวมีความประสงค์จะเปลี่ยนหรือเพิ่มท้องที่ทำงาน และเป็นการทำงานกับนายจ้างรายเดิมคนต่างด้าวไม่ต้องแจ้งหรือขออนุญาตจากนายทะเบียน ทั้งนี้ ยังต้องอยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง

๕. ในกรณีที่คนต่างด้าวประสงค์จะเปลี่ยนหรือเพิ่มประเภทงาน และเป็นการทำงานกับนายจ้างรายเดิม ถ้าคนต่างด้าวได้ทำงานตามประเภทที่ตนเองมีสิทธิทำได้ตามพระราชกำหนดฯ สามารถทำงานได้ทุกประเภทตามสิทธินั้น โดยไม่ต้องแจ้งหรือขออนุญาตจากนายทะเบียน เช่น

     (๑) คนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานโดยเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง (รวมทั้งคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานตาม MOU) มีสิทธิทำงานได้ทุกชนิด ยกเว้นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ (๓๙ อาชีพ)

     (๒) คนต่างด้าวที่เข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองแต่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการส่งกลับมีสิทธิทำงานได้ ๔ ประเภท คือ งานกรรมกร งานรับใช้ในบ้าน งานช่างเครื่องยนต์ในเรือประมง และงานผู้ประสานงานด้านภาษากัมพูชา ลาว หรือเมียนมา (งานผู้ประสานฯ ยังต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดประเภทงานให้คนต่างด้าวตามมาตรา ๑๓(๒) แห่งพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.๒๕๕๑ ทำได้ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙)

๖. ในการแจ้งและการรับแจ้งให้ใช้แบบที่กำหนดไปจนกว่ากรมการจัดหางานจะได้ออกระเบียบกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการแจ้งการทำงานตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม

     สำหรับกรณีนายจ้างจะมีความผิดตามมาตรา ๙ ประกอบ ๑๐๒ แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือไม่ นั้น ต้องปรากฏข้อเท็จจริงว่า

     (๑)รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงานกับตน หรือ

     (๒)ให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนอจากที่มีสิทธิจะทำได้ตามพระราชกำหนดฯ ซึ่งหมายความว่า กรณีคนต่างด้าวมีใบอนุญาตทำงานอยู่แล้ว คนต่างด้าวนั้นจะมีสิทธิทำงานประเภทงานตามกลุ่มที่ตนได้รับอนุญาตซึ่งได้ยกตัวอย่างไว้ในข้อ ๕ แต่ปรากฎว่านายจ้างได้ให้คนต่างด้าวไปทำงานนอกเหนือจากประเภทงานที่คนต่างด้าวนั้นมีสิทธิทำได้ เช่น ให้คนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานโดยเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองไปทำงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ หรือให้คนต่างด้าวที่ได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานชั่วคราวเพื่อรอการส่งกลับ (กลุ่มบัตรสีชมพู) ไปทำงานอย่างอื่นนอกจากงานกรรมกร งานรับใช้ในบ้าน งานช่างเครื่องยนต์ในเรือประมง และงานผู้ประสานงานด้านภาษากัมพูชา ลาว หรือเมียนมา เป็นต้น



ที่มา : กองนิติการ กรมการจัดหางาน รง ๐๓๐๓/ว ๕๔๘๘๒ ลว ๙ เมษายน ๒๕๖๑