​การปฏิบัติตามกฎหมาย เรื่องการจ้างงานคนพิการ RSS

 

การปฏิบัติตามกฎหมายเรื่องการจ้างงานคนพิการ

ด้วยพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550  มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งมีบทบัญญัติเพื่อกำหนดมาตรการสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมอาชีพและคุ้มครองการมีงานทำของคนพิการ เพื่อให้คนพิการได้มีโอกาสใช้ความสามารถ มีรายได้ และพึ่งพาตนเองได้ และลดภาระของครอบครัวและสังคมที่ต้องให้การอุปการะเลี้ยงดู รวมทั้งเป็นการส่งเสริมให้คนพิการเป็นพลังสำคัญในการเสริมสร้างทางเศรษฐกิจของครอบครัวและประเทศต่อไป จึงกำหนดวิธีการเพื่อให้คนพิการได้มีการประกอบอาชีพไว้ 3 กรณี คือ 1. รับคนพิการเขาทำงานตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 2. ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ตามมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 3. ให้สัมปทานจัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556

สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ขอชี้แจงแนวปฏิบัติตามกฎหมายในการจ้างงานคนพิการ ดังนี้

1. การกำหนดอัตราส่วนในการจ้างคนพิการ

ให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการนับจำนวนลูกจ้างที่มิใช่คนพิการทุกสาขารวมกัน  ณ วันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี เพื่อคำนวณจำนวนคนพิการที่ต้องรับเข้าทำงานในอัตราส่วนลูกจ้างที่มิใช่คนพิการทุก 100 คน ต่อคนพิการ 1 คน เศษของ100 คน ถ้าเกิน 50 คน ต้องรับคนพิการเพิ่มอีก 1 คน ทั้งนี้ในกรณีนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการที่มีสำนักงานสาขาให้นับจำนวนลูกจ้างรวมทุกสาขาเข้ากับสำนักงานใหญ่ของนิติบุคคลด้วย

2. การปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย

ในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคมของปีนั้น ถึงวันที่ 31 ธันวาคมของปี ให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการพิจารณาเลือกวิธีการปฏิบัติ ดังนี้

2.1 จ้างงานคนพิการตามมาตรา 33 ให้นายจ้างหรือสถานประกอบการส่งสำเนาสมุดประจำตัวคนพิการ หรือสำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ โดยให้คนพิการลงลายมือชื่อรับรองเอกสาร ส่งสำเนาสัญญาจ้างซึ่งมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี และส่งสำเนาสปส.1-10 ส่วนที่ 2 ที่ระบุชื่อคนพิการของเดือนที่รายงาน มาพร้อมแบบรายงานการปฏิบัติตามกฎหมายในการจ้างงานคนพิการ

2.2 จ่ายเงินเข้ากองทุนตามมาตรา 34 ให้ส่งเงินเข้ากองทุนเป็นรายปีโดยคำนวณจากอัตราต่ำสุดของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานที่ใช้บังคับครั้งหลังสุดในปีก่อนปีที่มีหน้าที่ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการคูณด้วยสามร้อยหกสิบห้าและคูณด้วยจำนวนคนพิการที่ไม่ได้รับเข้าทำงาน (ให้ใช้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ วันละ 300 บาท) โดยส่งเป็นเงินสด เช็คขีดคร่อม หรือธนาณัติสั่งจ่าย ”กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ” และให้ส่งถึงสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติที่สำนักงานใหญ่ของสถานประกอบตั้งอยู่ ภายในวันที่ 31 มกราคม 2557

2.3 การจัดให้สัมปทานตามมาตรา 35 หรือจัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ จัดจ้างเหมาช่วงงานหรือจ้างเหมาบริการโดยวิธีกรณีพิเศษ ฝึกงาน หรือจัดให้มีอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก ล่ามภาษามือ หรือให้การช่วยเหลืออื่นใดแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการตามมาตรา 35 ต้องยื่นหนังสือขอใช้สิทธิต่อสำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของพื้นที่ดำเนินการ และให้ส่งเอกสารตามแบบที่กรมการจัดหางานกำหนด โดยส่งสำเนาสัญญาระหว่างนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการกับคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ  รวมทั้งส่งสำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ หรือสำเนาบัตรประจำตัวผู้ดูแลคนพิการ มาพร้อมแบบรายงานการปฏิบัติตามกฎหมายในการจ้างงานคนพิการ

3. การรายงาน

ให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการรายงานผลการปฏิบัติตามข้อ 2 ต่อผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ที่สำนักงานใหญ่ของสถานประกอบการตั้งอยู่ ภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี โดยแบบรายงานการปฏิบัติตามกฎหมายการจ้างงานคนพิการ ต้องมีลายมือชื่อของผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลตามกฎหมายพร้อมส่งสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล